Knowledge
ความรู้เรื่องเกียร์รถยนต์
รถยนต์มีเกียร์เพื่อเป็นอุปกรณ์เปลี่ยนความเร็วของรถให้ เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง
อีกหน้าที่หนึ่งก็เพื่อเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ของตัวรถ เช่น เดินหน้า หรือ ถอยหลัง
โดยเกียร์จะมีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
1.เกียร์ธรรมดา (Manual Transmission) เป็นเกียร์ที่ผู้ขับขี่ต้องเปลี่ยนเกียร์เอง
มีข้อดีคือ ต้นทุนการผลิตต่ำ ทนทาน ดูแลรักษาและซ่อมแซมง่าย มีการสูญเสียกำลังน้อย และประหยัดน้ำมัน
แต่ก้อมีข้อเสียคือ ต้องเหยียบคลัชท์เข้าเกียร์เอง อาจจะเมื่อยเวลารถติด
2.เกียร์อัติโนมัติ ( Automatic Transmission) โดยระบบจะทำหน้าที่เปลี่ยนตำแหน่ง ของเกียร์ตามความเหมาะสมกับความเร็วและน้ำหนักบรรทุก
มีข้อดีคือ ให้ความสะดวกสบายกับผู้ขับขี่ เพิ่มสมรรถนะในการเร่งแซง ช่วยลดอัตราการสิ้น เปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิง มีความฉับไวและเที่ยงตรง
ข้อเสียคือ มีการสูญเสียกำลังจากเครื่องยนต์มากกว่า และมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและ ซ่อมแซมที่สูงกว่า
11 วิธีประหยัดในการใช้รถ
การมีรถยนต์จะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาหลายประการ เช่น ค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมัน
ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์ให้มีสภาพดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นด้านความสะอาด สมรรถนะของรถยนต์
วันนี้ Molyland จึงนำเทคนิคดี ๆ ที่ช่วยในการประหยัดค่าน้ำมันมาฝากค่ะ
1. ดับเครื่องทุกครั้งเมื่อจอดรถ หากต้องไปทำธุระที่ใช่เวลานานมากกว่า 5 นาที ควรดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง
เพราะการสตาร์ทรถยนต์ทิ้งไว้จะทำให้รถยนต์สิ้นเปลืองพลังงานไปอย่างไร้ประโยชน์
2. ขับรถไม่เกิน 80 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง การขับรถเร็วเกินกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้รถยนต์กินน้ำมัน
มากกว่าปกติ
3. หมั่นสังเกตรอยชำรุดหรือรอยน้ำมันรั่ว หากพบความผิดปกติดังกล่าว ต้องรีบนำไปซ่อม เพราะนอกจากจะ
ทำให้น้ำมันรั่วแล้ว ยังอันตรายมาก ๆ เพราะทำให้เกิดประกายไฟเป็นเพลิงลุกไหม้ได้อีกด้วย
4. เปิดแอร์ไม่เย็นจนเกินไป การเปิดแอร์ในอุณหภูมิต่ำเป็นเวลานานจะทำให้รถยนต์กินน้ำมันเกินกว่าระดับปกติ
5. เลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นที่มีคุณภาพดี เหมาะสมในการใช้งานกับรถยนต์ของท่าน
6.เปลี่ยนเกียร์ตามจังหวะการใช้รถ การใช้เกียร์ที่เหมาะสมกับจังหวะรถยนต์ เช่น ใช้เกียร์ N ตอนจอดรอรถติดไฟแดง
ใช้เกียร์ P ตอนจอดดับเครื่องเพื่อลงจากรถ
7.หมั่นเติมลมยางอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
8.ควรตรวจเช็คไส้กรองเป็นประจำ เพื่อตรวจสภาพ รอยชำรุด หรือทำความสะอาดคราบตะกอนต่าง ๆ
9. ไม่บรรทุกของหนักเกินพิกัด หรือวางของบนหลังคารถหนักจนเกินไป การมีสิ่งของบรรทุกบนรถยนต์มากเกินพอดี
จะทำให้รถกินน้ำมัน
10. มีเป้าหมายการเดินทางที่ชัดเจนทุกครั้ง เนื่องจากกรุงเทพเป็นเมืองที่รถติดมากโดยเฉพาะ ชั่วโมงเร่งด่วน
หากขับรถโดยไร้จุดหมายจะทำให้เปลืองน้ำมันมากเป็นพิเศษ เพราะต้องเสียพลังงานไปตอนจอดรอรถติดอยู่บ่อยครั้ง
11.วางแผนการเดินทางทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ลองพิจารณาจุดหมายปลายทางที่ต้องไป แล้ววางแผนว่าจะเดินทาง
ไปอย่างไรโดยให้เส้นทางสั้นที่สุด หรือหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดได้อย่างไร อาจใช้แอพสำหรับการเดินทางช่วย
หรือการฟังข่าวสารการจราจรก้อสามารถช่วยท่านย่นระยะเวลาในการเดินทางได้ค่ะ